ยอดชาจากแดนไกล
ชามีต้นกำเนิดจากประเทศจีนเมื่อ 4,000 – 5,000 กว่าปีมาแล้วชาที่นิยมดื่มกันในปัจจุบันมี 3 ชนิด คือ ชาเขียว ชาดำ ชาอูลง ซึ่งแต่ละชนิดก็มีที่มาและกรรมวิธีในการผลิตแตกต่างกัน ในปัจจุบันชาเขียวแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ชาเขียวแบบจีนและชาเขียวแบบญี่ปุ่น ซึ่งแตกต่างกันในกระบวนการแปรรูป โดยชาเขียวแบบจีนจะมีการคั่วด้วยกระทะร้อน ส่วนชาเขียวแบบญี่ปุ่นได้จากการทำให้ใบชาแห้งที่อุณหภูมิสูงอย่างรวดเร็ว จึงทำให้ใบชาแห้งยังคงมีสีเขียวและมีคุณภาพเช่นเดียวกับใบชาสด เมื่อชงน้ำร้อน ก็จะได้น้ำชาสีเขียวอ่อน กลิ่นหอมอ่อนๆ รสชาตินุ่มนวล
หลากหลายเมนูกับชาเขียว
ด้วยรสชาติกลมกล่อมละมุนลิ้นชาเขียวจึงสามารถเข้าไปครองใจใครหลายคนได้ไม่ยาก ทำให้ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ชาเขียวออกมาจำหน่ายมากมายทั้งในรูปแบบใบชาแห้งและรูปแบบผงชาเขียว ในประเทศญี่ปุ่น นิยมใช้ผงชาเขียวเติมลงในอาหารหลายชนิด ตั้งแต่อาหารญี่ปุ่น สเต็ก แฮมเบอร์เกอร์ สปาเกตตี้ และสลัด เป็นต้น
ชาเขียวสามารถนำมาประยุกต์เป็นเครื่องดื่มได้หลายเมนู เช่น ชาเขียวเย็น ชาเขียวร้อน ชาเขียวนม ชาเขียวปั่น และสามารถดัดแปลงรสชาติตามความชอบของแต่ละคน บางคนนิยมดื่มชาเขียวแบบดั้งเดิมเพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้นของชาเขียว บางคนเพิ่มความหวานเพื่อรสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น บางคนนิยมนำชาเขียวมาแต่งกลิ่นหรือจับคู่กับรสชาติต่างๆ เช่น น้ำผึ้ง มะลิ บัวหลวง เป็นต้น นอกจากนี้ยังของหวานที่มีส่วนผสมของชาเขียวไม่ว่าจะเป็น เค้กรสชาเขียว ไอศกรีมชาเขียว ขนมไดฟุกุ เป็นต้น
ชาเขียวกับสุขภาพ
ในชาเขียวมีสารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย อย่าง สารแคทิซิน (Catechin) ที่ช่วยต้านความชราได้ผลดีกว่าวิตามินซีหรือวิตามินอี ที่สำคัญ จากการศึกษาพบว่า สารแคเทชินในชาเขียวโดยเฉพาะ Epigallocatechin Gallate (EGCG) ช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็ง เช่น มะเร็งปอด กระเพาะ ลำไส้ เป็นต้น และยังมีสรรพคุณป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี โดยช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสเอชไอวีจับตัวกับเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดที่มีความสำคัญต่อภูมิคุ้มกันในร่างกายของคนเราที่เรียกว่า “ทีเซลล์” (T cells) ซึ่งเป็นด่านแรกที่ทำให้มีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีได้
ช่วยลดระดับคอเลสเทอรอล และช่วยควบคุมน้ำหนัก
ในชาเขียวมีสารซึ่งมีส่วนช่วยกำจัดไขมันคอเลสเทอรอลในหลอดเลือด และลดคอเรสเทอรอลในลำไส้ นอกจากนี้ ชาเขียวยังช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่พอดีอีกด้วย และหากคุณกำลังควบคุมน้ำหนัก ลองทดลองจิบชาเขียวควบคู่ไปด้วย เพราะจากการศึกษาพบว่า ชาเขียวช่วยเร่งให้ร่างกายมีการเผาผลาญอาหารและไขมันเร็วขึ้น
ช่วยล้างพิษ
ชาเขียวช่วยแบคทีเรียในลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพในการย่อยอาหารดีขึ้น ลดการสะสมสารพิษในลำไส้ และลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ตับ ทำให้ตับสามารถกำจัดสารพิษได้ดีขึ้น
ชาเขียวมัทฉะจากยอดใบชาอ่อน ขนาด100 กรัม
ผ่านกระบวนการเก็บที่พิถีพิถันจนได้ใบชามัทชะที่คงคุณค่ามากที่สุด
เหมาะทำเครื่องดื่มร้อน เย็น
เบเกอรี่ ไอศกรีม
ชาเขียวมัทชะ ไอศกรีมชาเขียวมัทชะ
สูตรชาเขียวมัทฉะกรีนลาเต้
ผงชาเขียวมัทฉะ 1ช้อนโต๊ะ
นมสด 1 ถ้วย
น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
ละลายผงชามัทฉะในน้ำร้อน
ตีนมร้อนให้ขึ้นฟองนม โดยใช้เครื่อง Plunger ดูวิธีทำเพิ่มในการตีฟองนมในเมนู สูตรเครื่องดื่ม
เทนมร้อนในถ้วยที่มีชาเขียว2/3 ถ้วย เพิ่มฟองนมด้านบน โรยหน้าน้ำผึ้งเพิ่มกลิ่นหอมหวาน
สูตรชาเขียวมัทฉะรสขิง
ส่วนผสม
ผงชาเขียวมัทฉะ 1ช้อนโต๊ะ
ขิงหั่นเป็นช้อนเล็กๆ
น้ำแข็ง
น้ำผึ้ง
น้ำมะนาว
วิธีทำ
ละลายผงชาเขียวมัทฉะในน้ำร้อน
เทส่วนผสมที่เหลือกับน้ำชา ลงในโถปั่น
ปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน รินใส่แก้ว โรยผงชามัทฉะด้านบนเล็กน้อย
เตรียมเสริฟ